ทำไมเรามักอยากได้รับความรัก ความเมตตา การดูแลจากคนอื่น แต่เรากลับไม่ยอมรักตัวเอง
ดูได้จากการที่เรารีบเร่งเสมอในทุกๆเรื่อง เวลาและเรื่องของปากท้องบีบคั้นเราให้ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำจนoffice syndrome ถามหา
เราต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ต้องห่วงใยดูแลลูกค้า บ่อยครั้งเราบอกกับตัวเองว่า “
ไม่เป็นไรน่า ทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวค่อยทานข้าวก็ได้ เดี๋ยวค่อยไปออกกำลังกายก็ได้
บางคนหนักถึงขั้น ยอมกลั้นปัสสาวะอุจจาระเพื่อจะเร่งทำงาน
หรือทำสิ่งต่างๆเพื่อคนอื่นๆก่อน
จากชีวิตจริงของผู้เขียน
การละเลยที่จะรักตัวเองก่อน นอกจากจะทำร้ายตัวเองทั้งด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ
และโอกาสทางสังคมอื่นๆแล้ว สิ่งที่เราจะสูญเสียไปด้วยแบบที่เราคาดไม่ถึงเลยก็คือ
การได้รับความเคารพจากผู้คนรอบข้าง
จริงอยู่ที่ว่าการทำตัวเป็นคนใช้ชีวิตง่ายๆไม่เรื่องมากและห่วงตัวเองน้อยกว่าผู้อื่นนั้นดูจะเป็นนิสัยที่น่ารัก
แต่ในระยะยาวแล้ว มันจะบั่นทอนความนับถือจากคนรอบข้างที่มีต่อเราลงไปด้วย การเป็นคนประเภทอะไรก็ได้
ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงมาตรฐานในการดำรงชีวิตที่ต่ำของเราและอาจนำมาซึ่งความรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ปรึกษาหรือพึ่งพิงไม่ได้ในเรื่องที่เราละเลยเหล่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เขียนเองทำงานเป็นผู้บริหาร ยิ่งต้องรักตัวเอง
เคารพตัวเองให้มาก ด้วยการใช้ชีวิตอย่างสมดุล มีความพอดี และจัดสรรเวลาอย่างลงตัว ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด
ดีจนเมื่อใครๆคิดถึงเรา
ต้องให้เค้าเหล่านั้นนึกถึงเราทั้งในแง่มาตรฐานการใช้ชีวิตและมาตรฐานการทำงาน
มาดูกันนะคะว่า มีสัญญาณที่เพื่อนๆคาดไม่ถึงอะไรกันบ้างที่แสดงว่าเราเริ่มจะรักตัวเองน้อยเกินไปซะแล้ว
1. ไม่อาบน้ำตอนไปทำงาน
และหลังกลับจากงาน
2. ปล่อยตัว เสื้อผ้า
หน้าผมไม่ดูแล (จนบางทีลูกค้าทำหน้างงๆว่าผู้เขียนเป็นผู้บริหารแน่หรือ)
3. ดื่มน้ำน้อยจนบางครั้งอาการหนักถึงขนาดลืมดื่มน้ำทั้งวัน
4. ทานอาหารไม่เป็นเวลา
และมักทานอาหารเดิมๆซ้ำ เพราะเร่งรีบและคิดว่าอะไรกินก็ได้
5. ยอมให้เพื่อนร่วมงานฉกฉวยเวลาอันมีค่าของเราด้วยการโยนงานให้เรา
6. ยอมที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำ
และแบกรับเกินหน้าที่ บางทีโต้รุ่ง
7. ยอมสละเวลาพักกลางวัน
พักร้อน วันหยุด เพื่อมาทำงานหรือ
8. กลั้นอุจจาระ
ปัสสาวะ เพราะมัวหมกมุ่นกับงาน
9. ทานอาหารโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือกองงาน
10.ยอมให้เพื่อนร่วมงาน คนรอบข้างทำให้เราแอบขุ่นเคืองใจกับเรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เราไม่ยอมจัดการ
แต่ก็ต้องแอบคับข้องใจไม่หาย
11. รับสายลูกค้าทั้งที่ขับรถ
ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือข้ามถนนอยู่
12. การชำระหนี้ต่างๆ
ค่าโทรศัพท์ล่าช้า จนเกิดค่าปรับเพราะมัวแต่ใส่ใจคนอื่น ใส่ใจงาน
13.เลือกที่ยุ่งกับงาน
จนลืมครอบครัวพ่อแม่ และหากเลือกได้ก็เลือกงานมาก่อนครอบครัวเสมอ…ประเด็นนี้อย่าได้มองข้าม เพราะหากเรารู้สึกผิดขึ้นมาวันหลังเมื่อไหร่
ความรู้สึกผิดนั้นจะบาดลึกและฝังแน่นในจิตใจมาก เพราะครอบครัวเป็นสิ่งลึกซึ้งมากสำหรับจิตใจมนุษย์
14.เรายอมช่วยผู้อื่นโดยเอาความมั่นคงของชีวิตไปเดิมพันแบบโง่ๆ
เช่นรู้ทั้งรู้ว่าช่วยเหลือใครแล้วจะต้องเดือดร้อนแน่ๆก็ยังช่วย
แล้วก็ต้องมานั่งเครียดเพราะหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
15. เราไม่รีบทำงานสำคัญที่เราต้องรับผิดชอบโดยตรงและมีแต่เราเท่านั้นที่ทำได้
แต่ห่วงช่วยคนอื่นก่อน จนในที่สุดงานของเราล่าช้าและไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้
16. เราไม่ยอมจัดสรรเวลาที่จะผ่อนคลายหรือทำอะไรสนุกๆให้กับชีวิตเลย
17. ที่พักรกรุงรัง
สกปรก
สำหรับผู้เขียนบอกเลยค่ะ
อาการหนักมากค่ะ มีครบทั้ง 17 ข้อแล้ว
ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นแม้ผู้คนจะชอบคนที่ง่ายๆแต่ในที่สุดก็จะศรัทธาเราน้อยลงเช่นกัน
และผลพวงของพฤติกรรมเหล่านี้ จะนำมาซึ่งความหมดไฟแบบสุดขั้ว ชนิดที่สภาพร่างกายล้า
ตึงเครียด และจิตใจท้อถอยจนยากจะเยียวยา…ดังนั้น
ถ้าใครเริ่มมีพฤติกรรมแบบที่บอกไว้ รีบแก้ไขด่วนเลยนะคะ
"จงรักและเคารพตัวเองให้เป็น
เพื่อที่จะคู่ควรพอที่จะได้รับความรักจากผู้อื่นและเพื่อจะรักผู้อื่นให้เป็น"
No comments:
Post a Comment