Search This Blog

Monday, February 16, 2015

ใครไม่เคยอู้งานยกมือขึ้น?? (Who never slaking off at work??)



ภาพจาก: wlnh.nh1media.com

      ใครไม่เคยอู้งานยกมือขึ้น??ได้ยินคำถามแล้วคงยากที่พนักงานออฟฟิศอย่างเราๆท่านๆจะปฏิเสธได้ลงคอ การอู้งานดูจะเป็นโรคประจำตัวของคนทำงานทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้บริหารลงมาจนถึงพนักงานระดับปฏิบัติการ จะอู้บ่อยแค่ไหน อู้นานเท่าไหร่ อู้ชั่วคราว หรืออู้เรื้อรัง ขึ้นอยู่กับหลายเหตุหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

  1. ความกดดันและความเครียดจากตัวของงานเอง บางครั้งการอู้งานไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะหากพนักงานมีความเครียดจากงานการอู้งานก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายอิริยาบถและจิตใจได้
  2. ปัญหาส่วนตัว เจ็บป่วย อกหัก มีปัญหาการเงิน มีปัญหาในครอบครัว พักผ่อนน้อย เที่ยวดึกเมาค้าง ทำให้ร่างกายและจิตใจไม่พร้อมที่จะทำงานและพะวงอยู่กับปัญหา
  3. มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ทำให้รู้สึกกดดันกับบรรยากาศในที่ทำงาน เข้าหน้าเพื่อนร่วมงานไม่ติดหรือพาลไปจนกระทั่งไม่อยากให้ความร่วมมือ
  4. เงินเดือน/โบนัสไม่เป็นไปตามที่หวัง – เป็นปัญหาสากลของทุกองค์กร ซึ่งขึ้นกับหลายปัจจัย เช่นนโยบายหรือผลประกอบการบริษัทไม่ดี  ทำเป้าในการขายแล้วไม่ได้ตามที่กำหนด โดนลงโทษทางวินัยทำให้ถูกตัดโบนัส เป็นพนักงานที่อายุงานมากแต่พนักงานเข้าใหม่เงินเดือนแซงหน้าเพราะวุฒิการศึกษามากกว่า หรือมีข้อตกลงตอนจ้างงานกับฝ่ายบุคคลด้วยค่าจ้างสูงกว่าทำให้รู้สึกไม่ยุติธรรมและโดนกินแรงจากเพื่อนร่วมแผนก บางคนน่าสงสารหัวหน้างานลืมปรับฐานเงินเดือนให้ทำให้เงินเดือนถูกดองยาวในขณะที่งานเท่าเดิม
  5. ถ่วง แกล้งให้งานเสร็จช้าลงรอเวลาไว้เพื่อหวังเอาประโยชน์บางอย่าง หรือทำให้ตัวเองดูมีความสำคัญ
  6. ขาดทักษะในการทำงาน ไม่เข้าใจเนื้องานดีพอ แต่ก็ไม่ยอมถามผู้มอบหมาย หรือถามแล้วผู้มอบหมายงานก็ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้
  7. จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงานไม่เป็น ทำให้บริหารเวลาได้ไม่เหมาะสม
  8. การเมืองในที่ทำงาน พนักงานขาดความสามัคคี พนักงานต่อต้านหัวหน้า ชิงดีชิงเด่นกัน
  9. ขาดแรงจูงใจ รู้สึกว่างานไม่ท้าทายมากพอหรือรู้สึกว่านี่ไม่ใช่งานในฝัน
  10. ระบบการประเมินผลงาน การให้คุณให้โทษ ไม่ได้มาตรฐาน คนขยันกับคนขี้เกียจ คนมีวินัยกับคนขาดวินัยได้รับผลไม่ต่างกัน ทำให้พนักงานคิดว่าว่าทำงานมากไปหรือมีวินัยมากไปก็เท่านั้น
  11. เป็นสัญญาณของการกำลังหางานใหม่หรือได้งานใหม่แล้ว – สัญญาณนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่องค์กร หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงานต้องเฝ้าระวังเพราะทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งมีค่ามาก เพราะบางครั้งอาจร้ายแรงสุดถึงขนาดบางที่พนักงานทิ้งงานโดยออกจากงานดื้อๆไม่แจ้งลาออกล่วงหน้า ไม่ส่งต่องาน
  12. ผู้บริหารหรือหัวหน้างานไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงาน อาทิ มาสายเป็นประจำ หยุดบ่อย ไม่หมั่นตรวจสอบพฤติกรรมลูกน้อง ไม่จัดลำดับงาน ไม่แจ้งขอบเขตและเป้าหมายของงานที่ชัดเจนไม่เป็นที่ปรึกษาที่ดี ขาดความยุติธรรม ขาดความหนักแน่นในการใช้ระบบให้คุณให้โทษ
     เพื่อลดการอู้งานก่อนที่จะกลายเป็นอาการเรื้อรังและลุกลามส่งผลเสียหายกับพนักงาน ตัวงานและองค์กร ทุกๆฝ่ายควรช่วยกัน ดังนี้

หัวหน้างานและองค์กร: ใส่ใจทีมงานมากขึ้นทั้งปัญหาส่วนตัวและหมั่นสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ให้กำลังใจ สร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมให้พนักงานได้รับการพัฒนาทักษะการทำงาน จัดทำแผนงานที่ดีที่มีเป้าหมายชัดเจน มีความยุติธรรมในการให้คุณให้โทษ สร้างบรรยากาศแห่งความสามัคคีในทีมงาน พยายามรับทราบความคืบหน้าและปัญหาในการทำงานของพนักงานให้ครอบคลุมที่สุดเพื่อการวางแผนขั้นต่อไปและหากมีกรณีพนักงานละทิ้งงานหรือออกจากงานกะทันหันจะได้สามารถดำเนินงานหรือมอบหมายงานให้พนักงานคนอื่นต่อได้ องค์กรควรจัดสรรให้มีสวัสดิการต่างๆมากขึ้น
เพื่อนร่วมงาน: เอื้อเฟื้อต่อเพื่อนร่วมงาน ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ใส่ใจทุกข์สุขของเพื่อนร่วมงานและเป็นตัวอย่างที่ดีในการเป็นพนักงานที่กระตือรือร้นให้กันและกัน คอยตักเตือนซึ่งกันและกัน
      ตัวพนักงานเอง: ต้องแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้มีสมดุล มีความรอบคอบในการใช้ชีวิตเพื่อลดปัญหาส่วนตัวที่จะส่งผลกระทบต่องานประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย มีกิจกรรมอดิเรกเพื่อลดความตึงเครียดและเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี มีความจริงใจในการที่จะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายลุล่วงด้วยการทำความเข้าใจเนื้องาน รายงานปัญหาในการทำงานยังหัวหน้า ประเมินตนเองตลอดเวลาเพื่อขอโอกาสองค์กร/หัวหน้างานในการรับการพัฒนาทักษะหรืออบรมเพื่อให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานดีขึ้นและเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพของตน และเหนือสิ่งอื่นใดต้องพยายามเตือนใจตัวเองให้รับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ 
   


ภาพจาก: www.slideshare.net


ทุกครั้งที่จะอู้งานจงถามตนเองเสมอว่า

เราได้สร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัวดีแค่ไหน และเราได้ทำงานให้คุ้มค่ากับที่ได้รับจ้างมาแล้วหรือยัง และเพื่อนร่วมงานหรือองค์กรจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากการอู้งานของเรา


Original Content Copy Right By: BAAN by JAI

     

No comments:

Post a Comment