Search This Blog

Thursday, February 19, 2015

กฎแห่งความร่ำรวยด้วยหลักการค้าของชาวยิว (Rules of Wealth byTrade principles of Jewish)

     
   สวัสดีค่ะเพื่อนๆ  วันนี้BAAN by JAI ขอแนะนำหนังสือดีๆเกี่ยวกับเทคนิคแห่งความร่ำรวยทางการค้าชื่อหนังสือ “กฎแห่งความร่ำรวยด้วยหลักการค้าของชาวยิว” ที่ผู้เขียนซื้อช่วงลดราคาแค่ 29 บาทเท่านั้นเองแต่เป็น29บาทที่คุ้มค่ามากๆเพราะมันช่วยเปลี่ยนมุมมองเราที่มีต่อชาวยิวชนชาติที่ขึ้นทำเนียบในใจมนุษยชาติทั่วโลกว่าแทบจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกและมีอัจฉริยะจำนวนมากที่เป็นคนยิวเช่นอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 
ผู้คิดค้นสมการสร้างระเบิดปรมาณู  สตีเฟน สปิลเบอร์กยอดผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ดเจ้าของผลงาน จอร์สอีทีหรือ
จูราสิคพาร์ค ผู้ก่อตั้งกูเกิ้ลอย่างเซอร์เก้บิงก็เป็นคนยิวที่อพยพมาจากรัสเซีย มาร์ค แซคเคอบอร์คเจ้าของ
เฟสบุ๊คเป็นคนยิว  จอร์จโซรอสพ่อมดทางการเงินหรือพอล จอห์นสันผู้จัดการกองทุนเฮดฟันด์ที่ทำกำไรจาก
วิกฤติซัพไพร์มอย่างมหาศาลแต่ในขณะเดียวกันเราต่างจดจำชาวยิวมานานแสนานนับพันปีว่าเป็นพ่อค้า
ขี้โกง รู้มาก ชอบต่อรอง หน้าเลือด



     หนังสือเล่มนี้ บอกเคล็ดลับการบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวหน้าและมั่นคงของชาวยิวโดยนำมาประยุกต์เข้ากับหลักการค้าของชาวญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นนักการค้าตัวฉกาจในปัจจุบัน เป็นหลักการสากลที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกชาติและทุกยุคสมัย แบ่งออกเป็น 7 ตอนด้วยกัน ผู้เขียนขอนำเสนอสรุปสาระสำคัญบางส่วนของหนังสือให้เพื่อนๆเก็บเกี่ยวนำไปใช้..เผื่อจะร่ำรวยมั่งคั่งกันบ้างได้เลยนะคะ
   
1. ชนชาติยิวแม้ในประวัติศาสตร์จะเคยถูกโจมตี ถูกทำลายล้างชีวิตทรัพย์สินอย่างน่าอนาถจนต้องลี้ภัยกระจาย ไปตามสถานที่ต่างๆทั่วโลกแต่ชาวยิวก็ยังสามารถสร้างผลงานให้แก่โลกในหลายๆด้านได้อย่างยอดเยี่ยม
2. ชาวยิวผูกพันกับเพชรนิลจินดาเพื่อป้องกันความแปรปรวนของเศรษฐกิจ
3. ชาวยิวมีความโดดเด่นด้านสติปัญญาและได้รับการอบรมบ่มเพาะให้ขยันหมั่นเพียรแต่เด็กจึงประสบความสำเร็จในการค้า
4. ชาวยิวมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเมื่อเห็นว่าธุรกิจใดมีอนาคตก็จะกล้าลงทุนอย่างมหาศาล เช่น กิจการธนาคาร เหมืองแร่และก่อสร้างทางรถไฟ
5. แม้จะผ่านความทุกข์ยากมานานนับสองพันปีแต่ชาวยิวยังคงยึดนิสัยรักการหัวเราะและมีอารมณ์ขันซึ่งทำให้ชีวิตมีความทรหด
6. ชาวยิวกระจายอยู่ทั่วโลกและตั้งหลักแหล่งที่อเมริกาเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นแดนสววรค์ของชาวยิวและทำให้ชาวยิวได้แสดงความสามารถอย่างมาก
7. แท้จริงแล้วชาวยิวไม่ได้ตระหนี่หากแต่ชาวยิวทำธุรกิจด้านการเงินมานานจึงมีความละเอียดรอบคอบในการใช้เงินและมองว่าเงินทองคือเครื่องมือ
8. ชาวยิวกำจัดความรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยแม้จะเคยลิ้มรสความเจ็บปวดจากการแพ้สงครามและสามารถแสดงความสามารถมากมาย
9. ชาวยิวแยกเรื่องส่วนตัวกับธุรกิจหรือส่วนรวมออกจากกันอย่างเด็ดขาดมากและจะเจราจาการค้าอย่างไม่ลดราวาศอกซึ่งต่างกับคนญี่ปุ่นมาก
10.  มีการแสดงออกที่ชัดเจนไม่คลุมเครือต่างกับชาวญี่ปุ่นซึ่งมักแสดงจุดยืนคลุมเครือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิด
11. คนญี่ปุ่นขาดอารมณ์ขันเนื่องจากมีชีวิตที่ตึงเครียดมากจึงควรผ่อนคลายและฝึกอารมณ์ขันบ้าง
12. ชาวยิวจะยึดมั่นในความคิดเห็นของตนไม่หูเบาและจะไม่เชื่อหากยังไม่ผ่านการทดสอบ
13. ชาวญี่ปุ่นรับประทานอาหารและดื่มตามประเพณีซึ่งสืบทอดกันมาและไม่ยอมปรับตัวด้านการกินตามยุคสมัยทำให้เสียเวลาในการทำธุรกิจมาก จึงควรเปลี่ยนแปลงความเคยชินเดิมๆเพื่อให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของคลื่นอารยะธรรม
14. พ่อค้าต้องรู้จักพลิกแพลงความคิดเห็นของตนให้เหมาะสม มองหลายๆมุมและเรื่องบางเรื่องแค่ปรับปรุงเล็กน้อยเงินทองก็อาจไหลมาเทมาได้
15. การทำกิจการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จะต้องมีการวางทั้งกลยุทธ์และยุทธวิธีเพื่อความสำเร็จของกิจการและลดความผิดพลาด
16. เพียงพลิกยุทธวิธี ก็สามารถยกระดับยอดขายให้สูงขึ้นได้
18. เพื่อให้พนักงานร่วมแรงร่วมใจให้ธุรกิจประสบความสำเร็จผู้ทำการค้าต้องพยายามหาเครื่องมือฝึกอบรมพนักงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด
19. ความแตกต่างอย่างมากในการใช้เวลาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเงินทุนและระบบประกอบการระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่น ทำให้ระบบวันหยุดของอเมริกาดีกว่าญี่ปุ่นมาก
20. เพิ่มความขยันทำให้ความฝันกลายเป็นจริง





No comments:

Post a Comment